3,990 บาท
มีการรับประกัน 1 ปี
ฝุ่นควันหรือ ฝุ่น PM
2.5 ปีนี้หนักหนาสาหัสกว่าที่คิดนะครับ อยู่ในบ้านคิดว่าดีแล้ว
คิดว่าเปิดเครื่องปรับอากาศแล้วจะลดฝุ่น PM 2.5 ได้ดีแล้ว
แต่มันยังไม่พอครับ เราต้องมีเครื่องฟอกอากาศสักเครื่่องสำหรับห้องรับแขก
หรือไว้ใช้ในห้องนอนส่วนตัวของเรา วันนี้ผมเลยมาแนะนำ
Smart Air เครื่องฟอกอากาศ รุ่น The Sqair (HEPA) สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร Air Purifier เครื่องกรองอากาศ
กำจัดฝุ่น PM2.5 ไวรัส แบคทีเรีย ราคา 4,000 บาท มีทอน
รับประกันสินค้ากันยาวๆ ไปเลย 1 ปีเต็ม
Smart Air เครื่องฟอกอากาศ รุ่น The Sqair (HEPA) สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร Air Purifier เครื่องกรองอากาศ
กำจัดฝุ่น PM2.5 ไวรัส แบคทีเรีย
เครื่องนี้เหมาะสำหรับขนาดห้องไม่เกิน 40 ตร.ม. เจ้าเครื่องกรองอากาศนี้
มีคุณสมบัติ HEPA ,ป้องกันไวรัส,ป้องกันภูมิแพ้,ยับยั้งแบคทีเรีย,ป้องกันกลิ่น
ระดับเสียงในการทำงานคือ 23 เดซิเบล ตัวเครื่องมีความสวยงามมาก เหมาะสำหรับคุมโทน
ทำงานเสียงเงียบมาก ประกอบง่าย ใช้งานง่าย อายุการใช้งาน HEPA 6 เดือนด้วยกัน
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ Air Purifier
1.ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก
,ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศได้ดี
ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ
2.กำจัดเชื้อโรคในอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในบ้านบางรุ่นมีระบบกรองที่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ เช่น แบคทีเรีย
ไวรัส และเชื้อราที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ
3.ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
สามารถช่วยกำจัดกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และกลิ่นอับในบ้านได้
โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองคาร์บอน
4.กำจัดมลพิษทางอากาศ ลดสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารระเหยจากสี
น้ำยาทำความสะอาดหรือควันพิษที่อาจลอยอยู่ในอากาศ
5.ช่วยให้ระบบทางเินหายใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น
เื่ออากาศสะอาดขึ้น จะช่วยลดภาระของปอดในการกรองสิ่งสกปรก
และช่วยลดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
6.เพิ่มคุณภาพชีวิต
อากาศที่บริสุทธิ์ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีขึ้น
7.เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
ช่วยลดขนสัตว์ สะเก็ดผิวหนัง หรือกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงที่อาจกระจายในอากาศได้
8.ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคในระยะยาว
การลดการสัมผัสมลพิษในอากาศช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็งที่อาจเกิดจากการสะสมสารพิษในร่างกาย
วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาถูกต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการของคุณเอง
นี่คือวิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ควรคำนึงถึง
1.ขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน
· ดูค่า
CADR
(Clean Air Delivery Rate) หรือค่าท่บอกว่าเครื่องสามารถฟอกอากาศได้เร็วแค่ไหนในพื้นที่ขนาดเท่าใด
· เลือกเครื่องที่เหมาะกับพื้นที่
เช่น ห้องเล็ก<20 ตร.ม.ห้องขนาดกลาง 20-40 ตร.ม.
หรือห้องขนาดใหญ่ > 50 ตร.ม
2.ชนิดของฟิลเตอร์
· HEPA
Filter: กรองฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
· Activated
Carbon Filter กำจัดกลิ่นและสารเคมีในอากาศ
· Pre-Filter
: กรองฝุ่นหยาบหรือเส้นผมก่อนถึง HEPA
· UV-C
หรือ lonizer: ช่วยฆ่าเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย
3.ความสามารถในการฟอกมลพิษ
· หากอยู่ในเมืองที่มีฝุ่น
PM
2.5 สูง ควรเลือกเครื่องที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดี
· สำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือมีสัตว์เลี้ยง
เลือกเครื่องที่กำจัดขนสัตว์และสารก่อภูมิแพ้ได้
4.ระดังเสียง
· เครื่องฟอกอากาศควรมีระดับเสียงต่ำ
(25-50 เดซิเบล) เพื่อไม่ให้รบกวน การทำงานหรือการนอนหลับ
5.การบำรุงรักษา
· ตรวจสอบความสะดวกในการเปลี่ยนฟิลเตอร์และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนฟิลเตอร์
· เลือกแบรนด์ที่มีบริการหลังการขายและหาฟิลเตอร์เปลี่ยนได้ง่าย
6.ฟังก์ชั่นพิเศษ
· โหมดอัตโนมัติ
(Auto
Mode) ที่ปรับการทำงานตามสภาพอากาศ
· การควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น
· เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นและมลพิษ
7.การประหยัดพลังงาน
· เลือกเครื่องที่มีฉลากประหยัดพลังงานหรือใช้ไฟต่ำเพื่อช่วยลดค่าไฟ
8.ราคา
· ตั้งงบประมาณและเปรียบเทียบฟังก์ชั่นของแต่ละรุ่นในช่วงราคาที่เหมาะสม
· บางรุ่นราคาสูงแต่มีฟิลเตอร์ใช้งานได้นาน
ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
9.รีวิวและการรับประกัน
· อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อดูคุณภาพและประสิทธิภาพ
· ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย
10.ดีไซน์และความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
· หากต้องการย้ายเครื่องฟอกอากาศระหว่างห้อง
เลือกที่มีน้ำหนักเบาหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีล้อเลื่อน
วิธีการดูแลเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน
เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
1. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ
· HEPA
Filter ควรตรวจสอบและทำความสะอาดทุก 2-4 สัปดาห์
หรือเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิต
· แผ่นกรองคาร์บอน
เปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นหรือไม่สามารถดูดซับกลิ่นได้ดี
· Pre-Filter
ล้างด้วยน้ำหรือทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่มอย่างน้อยเดือนละครั้ง
2.วางเครื่องในตำแหน่งที่เหมาะสม
· ตั้งในบริเวณที่มีการไหลเวียนอากาศดี
· หลีกเลี่ยงการวางใกล้ผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ปิดกั้นช่องรับอากาศ
3.ปิดเครื่องเมื่อไม่ได้ใช้งานนาน
· หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน
ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊ก เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้าหรือฝุ่นสะสม
4.เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่อง
· ใช้ผ้าชุมน้ำหมาดเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกทุกสัปดาห์เพื่อกำจัดฝุ่น
5.ตรวจสอบการทำงานของพัดลมและมอเตอร์
· หากมีเสียงดังผิดปกติหรือพัดลมหุนช้า
ควรตรวจสอบและนำส่งศูนย์บริการเพื่อซ่อมแซม
6.เปลี่ยนแผ่นกรองตามอายุการใช้งาน
· ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งาน
โดยเฉพาะการเปลี่ยนแผ่นกรอง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศ
7.ใช้อุปกรณ์เสริมที่ได้มาตรฐาน
· หากต้องเปลี่ยนชิ้นส่วน
ควรเลือกใช้ของแท้ที่แนะนำโดยผู้ผลิต
8.ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้งาน
· อ่านคู่มือใช้งานอย่างละเอียดเพื่อเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องสำหรับรุ่นเครื่องฟอกอากาศของคุณเอง
การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ อย่างเหมาะสมช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาวได้ครับ
ผมหวังว่าบทความพรีวิวเครื่องฟอกอากาศ ของผมจะให้ความรู้
ความเข้าใจ และรู้จักเครื่องฟอกฝุ่นเครื่องนี้เป็นอย่างดี
เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในบ้านได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
และสำหรับใครที่ไม่มีบ้านไหนที่ยังไม่มี ผมแนะนำตัวนี้เลยครับ คลิกสั่งซื้อที่รูปสินค้าด้านบนและรูปด้านล่างสุดได้เลยค้าบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น