วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568

พรีวิว Smart Air เครื่องฟอกอากาศ รุ่น The Sqair (HEPA) สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร Air Purifier



3,990 บาท

มีการรับประกัน 1 ปี

 

 

ฝุ่นควันหรือ ฝุ่น PM 2.5 ปีนี้หนักหนาสาหัสกว่าที่คิดนะครับ อยู่ในบ้านคิดว่าดีแล้ว คิดว่าเปิดเครื่องปรับอากาศแล้วจะลดฝุ่น PM 2.5 ได้ดีแล้ว แต่มันยังไม่พอครับ เราต้องมีเครื่องฟอกอากาศสักเครื่่องสำหรับห้องรับแขก หรือไว้ใช้ในห้องนอนส่วนตัวของเรา วันนี้ผมเลยมาแนะนำ

 

Smart Air เครื่องฟอกอากาศ รุ่น The Sqair (HEPA) สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร Air Purifier เครื่องกรองอากาศ กำจัดฝุ่น PM2.5 ไวรัส แบคทีเรีย ราคา 4,000 บาท มีทอน รับประกันสินค้ากันยาวๆ ไปเลย 1 ปีเต็ม

 

Smart Air เครื่องฟอกอากาศ รุ่น The Sqair (HEPA) สำหรับห้องขนาด 40 ตารางเมตร Air Purifier เครื่องกรองอากาศ กำจัดฝุ่น PM2.5 ไวรัส แบคทีเรีย เครื่องนี้เหมาะสำหรับขนาดห้องไม่เกิน 40 ตร.ม. เจ้าเครื่องกรองอากาศนี้ มีคุณสมบัติ HEPA ,ป้องกันไวรัส,ป้องกันภูมิแพ้,ยับยั้งแบคทีเรีย,ป้องกันกลิ่น ระดับเสียงในการทำงานคือ 23 เดซิเบล ตัวเครื่องมีความสวยงามมาก เหมาะสำหรับคุมโทน ทำงานเสียงเงียบมาก ประกอบง่าย ใช้งานง่าย อายุการใช้งาน HEPA 6 เดือนด้วยกัน

 

ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ Air Purifier

1.ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก ,ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ที่ลอยอยู่ในอากาศได้ดี ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ

2.กำจัดเชื้อโรคในอากาศ  เครื่องฟอกอากาศในบ้านบางรุ่นมีระบบกรองที่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ

3.ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ สามารถช่วยกำจัดกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และกลิ่นอับในบ้านได้ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองคาร์บอน

4.กำจัดมลพิษทางอากาศ  ลดสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น สารระเหยจากสี น้ำยาทำความสะอาดหรือควันพิษที่อาจลอยอยู่ในอากาศ

5.ช่วยให้ระบบทางเินหายใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น เื่ออากาศสะอาดขึ้น จะช่วยลดภาระของปอดในการกรองสิ่งสกปรก และช่วยลดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

6.เพิ่มคุณภาพชีวิต อากาศที่บริสุทธิ์ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีขึ้น

7.เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ช่วยลดขนสัตว์ สะเก็ดผิวหนัง หรือกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงที่อาจกระจายในอากาศได้

8.ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคในระยะยาว การลดการสัมผัสมลพิษในอากาศช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็งที่อาจเกิดจากการสะสมสารพิษในร่างกาย

 

วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาถูกต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการของคุณเอง นี่คือวิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ควรคำนึงถึง

1.ขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน

·      ดูค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือค่าท่บอกว่าเครื่องสามารถฟอกอากาศได้เร็วแค่ไหนในพื้นที่ขนาดเท่าใด

·      เลือกเครื่องที่เหมาะกับพื้นที่ เช่น ห้องเล็ก<20 ตร.ม.ห้องขนาดกลาง 20-40 ตร.ม. หรือห้องขนาดใหญ่ > 50 ตร.ม

2.ชนิดของฟิลเตอร์

·      HEPA Filter: กรองฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

·      Activated Carbon Filter กำจัดกลิ่นและสารเคมีในอากาศ

·      Pre-Filter : กรองฝุ่นหยาบหรือเส้นผมก่อนถึง HEPA

·      UV-C หรือ lonizer: ช่วยฆ่าเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย

3.ความสามารถในการฟอกมลพิษ

·      หากอยู่ในเมืองที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง ควรเลือกเครื่องที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดี

·      สำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือมีสัตว์เลี้ยง เลือกเครื่องที่กำจัดขนสัตว์และสารก่อภูมิแพ้ได้

4.ระดังเสียง

·      เครื่องฟอกอากาศควรมีระดับเสียงต่ำ (25-50 เดซิเบล) เพื่อไม่ให้รบกวน การทำงานหรือการนอนหลับ

5.การบำรุงรักษา

·      ตรวจสอบความสะดวกในการเปลี่ยนฟิลเตอร์และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนฟิลเตอร์

·      เลือกแบรนด์ที่มีบริการหลังการขายและหาฟิลเตอร์เปลี่ยนได้ง่าย

6.ฟังก์ชั่นพิเศษ

·      โหมดอัตโนมัติ (Auto Mode) ที่ปรับการทำงานตามสภาพอากาศ

·      การควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น

·      เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นและมลพิษ

7.การประหยัดพลังงาน

·      เลือกเครื่องที่มีฉลากประหยัดพลังงานหรือใช้ไฟต่ำเพื่อช่วยลดค่าไฟ

8.ราคา

·      ตั้งงบประมาณและเปรียบเทียบฟังก์ชั่นของแต่ละรุ่นในช่วงราคาที่เหมาะสม

·      บางรุ่นราคาสูงแต่มีฟิลเตอร์ใช้งานได้นาน ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

9.รีวิวและการรับประกัน

·      อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อดูคุณภาพและประสิทธิภาพ

·      ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย

10.ดีไซน์และความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

·      หากต้องการย้ายเครื่องฟอกอากาศระหว่างห้อง เลือกที่มีน้ำหนักเบาหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีล้อเลื่อน

 

วิธีการดูแลเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน

เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน

1.     ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ

·      HEPA Filter ควรตรวจสอบและทำความสะอาดทุก 2-4 สัปดาห์ หรือเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิต

·      แผ่นกรองคาร์บอน เปลี่ยนเมื่อมีกลิ่นหรือไม่สามารถดูดซับกลิ่นได้ดี

·      Pre-Filter ล้างด้วยน้ำหรือทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่มอย่างน้อยเดือนละครั้ง

2.วางเครื่องในตำแหน่งที่เหมาะสม

·      ตั้งในบริเวณที่มีการไหลเวียนอากาศดี

·      หลีกเลี่ยงการวางใกล้ผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ปิดกั้นช่องรับอากาศ

3.ปิดเครื่องเมื่อไม่ได้ใช้งานนาน

·      หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊ก เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้าหรือฝุ่นสะสม

4.เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่อง

·      ใช้ผ้าชุมน้ำหมาดเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอกทุกสัปดาห์เพื่อกำจัดฝุ่น

5.ตรวจสอบการทำงานของพัดลมและมอเตอร์

·      หากมีเสียงดังผิดปกติหรือพัดลมหุนช้า ควรตรวจสอบและนำส่งศูนย์บริการเพื่อซ่อมแซม

6.เปลี่ยนแผ่นกรองตามอายุการใช้งาน

·      ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งาน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแผ่นกรอง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศ

7.ใช้อุปกรณ์เสริมที่ได้มาตรฐาน

·      หากต้องเปลี่ยนชิ้นส่วน ควรเลือกใช้ของแท้ที่แนะนำโดยผู้ผลิต

8.ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้งาน

·      อ่านคู่มือใช้งานอย่างละเอียดเพื่อเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องสำหรับรุ่นเครื่องฟอกอากาศของคุณเอง

การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ อย่างเหมาะสมช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาวได้ครับ

 

ผมหวังว่าบทความพรีวิวเครื่องฟอกอากาศ ของผมจะให้ความรู้ ความเข้าใจ และรู้จักเครื่องฟอกฝุ่นเครื่องนี้เป็นอย่างดี เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในบ้านได้ดียิ่งขึ้นต่อไป และสำหรับใครที่ไม่มีบ้านไหนที่ยังไม่มี ผมแนะนำตัวนี้เลยครับ คลิกสั่งซื้อที่รูปสินค้าด้านบนและรูปด้านล่างสุดได้เลยค้าบ

 

 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีวิวสว่านกระแทกไร้สาย MAKITA 12V รุ่น HP333DYX3B ++BLACK EDITION แรง ทน คุ้มเกินราคา!

2,779 บาท ไม่มีการรับประกัน หากคุณกำลังมองหา สว่านไร้สาย สำหรับงานช่างทั่วไปในบ้านหรืองาน DIY เล็ก ๆ ที่เน้นความสะดวก คล่องตัว และพกพาง่าย ...